ขอพรจากสวรรค์ เรื่องเป็นไปได้ หรือแค่ความฝันเลอะเทอะ
|
7ข้อ กับวิธีการขอพรจากสวรรค์ง่ายๆ ได้ผล ไม่ต้องพิธีรีตอง ไม่ต้องมีของเซ่นไหว้ ติดสินบนอะไรเลย
1.ห้ามขอมีปีกแบบนก, หายตัวได้, ขอถูกหวย, ขอให้เงินทองหลนลงมาตกใส่หัวแม่โป้งตีนเพื่อจะได้เก็บมาใช้ได้ทันที หรืออะไรทำนองนั้น เพราะของแบบนี้คุณจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อคุณได้กลายเป็นเทวดาที่อยู่สรวงสวรรค์จริงๆเท่านั้น ตอนนี้เป็นมนุษย์เดินดิน สวรรค์ไม่อาจให้ในสิ่งที่เทียบเคียงกับเบื้องบนได้แน่นอน
2. คุณไม่สามารถมองเห็นสวรรค์ได้ด้วยตาเปล่า ฉะนั้นถ้าคุณกำลังจะขอพรจากสิ่งที่มองไม่เห็น คุณก็ต้องใช้สิ่งที่มองไม่เห็นช่วยในการขอเหมือนกัน และสิ่งที่มองไม่เห็นในที่นี้ก็คือใจครับ คุณต้องขอพรด้วยใจ และต้องเต็มใจที่จะได้ใช้มันด้วย
3. คุณควรรู้ไว้ก่อนว่า พื้นที่เพียงแห่งเดียวที่สวรรค์จะนำพรมาวางไว้ให้คุณได้ใช้ก็คือ ในความคิด หรือในหัวของคุณนั่นเอง ฉะนั้นในข้อนี้คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า ในหัวของคุณยังมีพื้นที่ว่างเหลือพอที่จะให้สวรรค์นำพรทั้งหลายมาวางไว้หรือเปล่า
- ถ้าคุณตอบว่ายังมีที่ว่างเหลือเฟือเลยหละ ฉันเป็นพวกสมองกลวงสวรรค์ให้อะไรมาฉันเต็มใจรับหมด แบบนี้คุณเยี่ยมมาก ข้ามไปอ่านข้อ 6. ได้เลย
- แต่ถ้าคุณตอบว่าคนฉลาดอย่างฉันในหัวมันก็ต้องอัดแน่นไปด้วยความรู้สารพัดอย่างหน่ะสิ แบบนี้ผมว่าคุณขออะไรก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะสวรรค์เองก็คงจะเห็นใจคุณอยู่ไม่น้อย เลยไม่อยากจะเอาอะไรใหม่ๆมาวางเกะกะพื้นที่สมองของคุณอีกเหมือนกัน
- แต่ถ้าคุณตอบว่าคนฉลาดอย่างฉันในหัวมันก็ต้องอัดแน่นไปด้วยความรู้สารพัดอย่างหน่ะสิ แบบนี้ผมว่าคุณขออะไรก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะสวรรค์เองก็คงจะเห็นใจคุณอยู่ไม่น้อย เลยไม่อยากจะเอาอะไรใหม่ๆมาวางเกะกะพื้นที่สมองของคุณอีกเหมือนกัน
4. ปัดกวาดทำความสะอาดความคิดเน่าๆที่เป็นเหมือนขยะรกสมองกันบ้างก็ดีนะครับ เผื่อว่าคุณจะได้พื้นที่ว่างๆเพิ่มขึ้น และถ้าทำได้ จัดการขยายพื้นที่ให้มันใหญ่กว่าเดิมยิ่งดี สมองคนเราก็เหมือนกับ Hard diskในคอมพิวเตอร์ เหมือนบ้าน เหมือนห้องเก็บของนั่นแหละ คุณๆก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า คอมพิวเตอร์ที่ไม่เคยจัดเก็บอะไรให้เป็นระเบียบ หรือบ้านที่แสนจะซกมก เวลาใช้งานมันเป็นอย่างไร..........มาถึงตรงนี้คุณ พร้อมที่จะขอพรจากสวรรค์แล้วหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วคุณก็ขอเลยสิ. ขอให้เรียนเก่งๆ, ทำงานไร้ที่ติ, หาเงินได้เยอะๆ อะไรก็ได้ที่มันไม่ขัดกับข้อ1.
5 ถ้าคุณได้ขอพรอะไรไปแล้ว ในข้อนี้ผมมีทั้งข่าวดี และข่าวร้ายจะมาบอกคุณครับ
ข่าวดีก็คือ สวรรค์ผู้เมตตาให้พรคุณมาตั้งแต่คุณอธิฐานจบแล้วหละ แต่..
ข่าวร้าย มันก็มีอยู่ว่า ตอนนี้สวรรค์เบื้องบนยังไม่ค่อยจะมั่นใจมากนักว่าคุณจะเอาพรที่สวรรค์ให้ ไปใช้จริงหรือเปล่า ในเบื้องต้นสวรรค์ก็เลยหยิบยื่นพรอันน้อยนิดให้เป็นเหมือนสินค้าทดลองกับคุณไปก่อน เพราะฉะนั้นคุณต้องแสดงให้สวรรค์ได้รู้ด้วยว่า ไอ้ที่ฉันขอนั่นฉันจะใช้มันจริงๆนะ ไม่ได้จะเอามาหมักบ่มทำเท่,ทำแหนมอะไรทั้งนั้น
มาดูตัวอย่างกัน
- คุณขอพรให้ทำงานเก่งๆ คุณก็แค่เดินเข้าไปหางาน จากนั้นก็ลงมือทำมันเลย และลองคิดหาช่องทาง หรือวิธีการทำงานที่หลากหลายกว่าเดิมด้วย พอมาถึงตรงนี้อาจมีคนคิดในใจว่า ฉันก็ยังไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรพิเศษไปกว่าเดิมนี่ จะเห็นก็แต่งานฉันมันเสร็จไปอีกนิดหน่อยเอง.. ถูกต้องแล้วครับที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าคุณได้ใช้สินค้าทดลองจากสวรรค์หมดไปแล้วไง
ข่าวดีก็คือ สวรรค์ผู้เมตตาให้พรคุณมาตั้งแต่คุณอธิฐานจบแล้วหละ แต่..
ข่าวร้าย มันก็มีอยู่ว่า ตอนนี้สวรรค์เบื้องบนยังไม่ค่อยจะมั่นใจมากนักว่าคุณจะเอาพรที่สวรรค์ให้ ไปใช้จริงหรือเปล่า ในเบื้องต้นสวรรค์ก็เลยหยิบยื่นพรอันน้อยนิดให้เป็นเหมือนสินค้าทดลองกับคุณไปก่อน เพราะฉะนั้นคุณต้องแสดงให้สวรรค์ได้รู้ด้วยว่า ไอ้ที่ฉันขอนั่นฉันจะใช้มันจริงๆนะ ไม่ได้จะเอามาหมักบ่มทำเท่,ทำแหนมอะไรทั้งนั้น
มาดูตัวอย่างกัน
- คุณขอพรให้ทำงานเก่งๆ คุณก็แค่เดินเข้าไปหางาน จากนั้นก็ลงมือทำมันเลย และลองคิดหาช่องทาง หรือวิธีการทำงานที่หลากหลายกว่าเดิมด้วย พอมาถึงตรงนี้อาจมีคนคิดในใจว่า ฉันก็ยังไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรพิเศษไปกว่าเดิมนี่ จะเห็นก็แต่งานฉันมันเสร็จไปอีกนิดหน่อยเอง.. ถูกต้องแล้วครับที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าคุณได้ใช้สินค้าทดลองจากสวรรค์หมดไปแล้วไง
6. ขอซ้ำอีกรอบ แต่คราวนี้ให้คุณตะโกนบอกกับสวรรค์ดังๆไปเลยว่า "เอ่อ?..สวรรค์ขอรับ, สวรรค์เพคะ ให้มาจี๊ดเดียวมันจะพอทำมาหาแดกมั๊ยเนี่ย เอามาเยอะๆ ขอกันในแบบสุดโต่ง"... น่านเห็นมั๊ยท่านให้มาอีกแล้ว.เหมือนเดิมครับให้คุณรีบๆเอาไปใช้เลย ใช้ให้หมด และใช้อย่างกระตือรือร้นด้วย เพราะมันจะเป็นการแสดงให้สวรรค์ได้รู้ว่า คุณ Need มันขนาดไหน... และหลังจากนี้คุณก็แค่ขอซ้ำอีกรอบ, อีกรอบ และอีกรอบ เชื่อผมเถอะไม่ถึงหนึ่งเดือนคุณได้เห็นผลทางบวกแน่นอน
7. ผมสังเกตว่าแท้ที่จริงแล้วสวรรค์เป็นผู้ให้ที่ไม่ได้คิดอะไรเลย หนำซ้ำพี่แกเป็นพวกหลับหูหลับตาให้อีกต่างหาก ตรงนี้ผมไม่ได้พูดมั่่วนะ มันพิสูตรได้ ถ้าไม่เชื่อคุณลองทุ่มเวลา และให้ความสนใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษดูสิ แค่นี้แหละสวรรค์ก็จะรีบทึกทักไปเองแล้วว่าคุณต้องการสิ่งนั้นจริงๆ และรีบประเคนสิ่งที่คุณกำลังตั้งใจทำอยู่นั้นเป็นการใหญ่ ก็ด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อย ที่มักจะได้รับพรจากสวรรค์ในแบบผิดๆเพี้ยนๆ
อย่างเช่น คุณอาจจะขอพรจากสวรรค์ว่า..."ฮั่ลโหล๊!..สวรรค์ คือตอนนี้ฉันอยากพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษให้มันเก่งๆหน่ะ เผื่อว่าดวงตาจะได้เป็นสีฟ้า" ขอแบบนี้ไปแล้ว แทนที่คุณจะเดินไปหยิบหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่าน, เข้าไปในเว็บไซท์สอนภาษา อะไรแบบนั้น แต่คุณกลับทุ่มเวลาไปกับการกินเที่ยว หรือมัวแต่ไปดูละครน้ำเน่า สวรรค์ผู้ไม่รู้จักคิดก็เลยบันดาลให้คุณได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวเยอะขึ้นกว่าเก่า และแถมด้วยขนตาปลอมงอนโง้งมาอีกหนึ่งคู่แบบนางเอกในละครหลังข่าวไง
- ถ้าคุณได้ทำแบบที่ผมพูดไว้ทั้ง 7.ข้อมาสักพักใหญ่ๆ คุณจะได้ค้นพบความจริงอีกข้อหนึ่งว่าสวรรค์ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำไปว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน ยากดีมีจน, มี หรือไม่มีกระดาษวุฒิอะไร และไม่สนใจด้วยว่าคุณจะขอพรในเวลากี่โมงกี่ยาม ไม่สนว่าเป็นวันคู่ หรือวันคี่ วันดี หรือวันร้าย มีเพียงอย่างเดียวที่สวรรค์สนใจก็คือ คุณคิดจะทำอะไร และคุณกำลังทุ่มเทเวลาให้กับอะไรเป็นพิเศษ สิ่งนั้นแหละที่สวรรค์จะประเคนมาให้คุณ
- ถ้าคุณขอ และนำพรจากสวรรค์ไปใช้จนเป็นกิจวัตร, กลายเป็นนิสัยปกติ ฝังลึกจนเป็นสันดาน และเมื่อวันนั้นมาถึงคุณก็จะไม่สามารถแยกออกได้เลยว่า ความสามารถด้านไหนในตัวคุณที่ต้องเรียกว่าเป็นพรจากสวรรค์ หรือว่า พรแสวง เพราะความสามารถพิเศษเหล่านั้นมันได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคุณไปเสียแล้ว
* ข้อนี้สำคัญ: ไม่ว่าคุณจะขอพร หรือทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปแล้วก็ตาม ผมอยากให้คุณเดินไปที่หน้ากระจก แล้วกล่าวคำชื่นชมอย่างจริงใจกับคนที่อยู่ตรงข้ามคุณ... ใช่เลยคนที่หน้าตาดีๆนั่นแหละ เพราะพรจากสวรรค์ที่ผมว่านั้นแท้ที่จริงแล้ว มันก็คือขุมทรัพย์ที่มีอยู่แล้วในตัวของคุณต่างหาก เพียงแต่คุณจะมีความพยายามขุดมันขึ้นมาใช้ หรือค้นพบมันเมื่อไหร่เท่านั้นเอง, การรู้จักชื่นชม และมองเห็นคุณค่าของตัวเองเสียบ้างเป็นเรื่องที่คู่ควรกับคนที่มีความพยายามมุ่งไปสู่ความสำเร็จ และยืนอยู่บนหลักของเหตุผลอย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าพยายามเหนื่อยแทบตายกลับไปยกความดีความชอบให้กับเจ้าที่ผีต้นไม้ ถ้าคิดแบบนั้นแล้ว ก็เท่ากับคุณเชื่อว่าตัวของคุณไร้ค่าถึงขนาดไม่หลงเหลืออะไรให้ได้ชื่นชมเลย
* ข้อนี้สำคัญ: ไม่ว่าคุณจะขอพร หรือทำอะไรสำเร็จลุล่วงไปแล้วก็ตาม ผมอยากให้คุณเดินไปที่หน้ากระจก แล้วกล่าวคำชื่นชมอย่างจริงใจกับคนที่อยู่ตรงข้ามคุณ... ใช่เลยคนที่หน้าตาดีๆนั่นแหละ เพราะพรจากสวรรค์ที่ผมว่านั้นแท้ที่จริงแล้ว มันก็คือขุมทรัพย์ที่มีอยู่แล้วในตัวของคุณต่างหาก เพียงแต่คุณจะมีความพยายามขุดมันขึ้นมาใช้ หรือค้นพบมันเมื่อไหร่เท่านั้นเอง, การรู้จักชื่นชม และมองเห็นคุณค่าของตัวเองเสียบ้างเป็นเรื่องที่คู่ควรกับคนที่มีความพยายามมุ่งไปสู่ความสำเร็จ และยืนอยู่บนหลักของเหตุผลอย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าพยายามเหนื่อยแทบตายกลับไปยกความดีความชอบให้กับเจ้าที่ผีต้นไม้ ถ้าคิดแบบนั้นแล้ว ก็เท่ากับคุณเชื่อว่าตัวของคุณไร้ค่าถึงขนาดไม่หลงเหลืออะไรให้ได้ชื่นชมเลย
สนใจสมัครงานอ่านตรงนี้ครับ: เราไม่สนเรื่องวุฒิการศึกษา เงินเดือนเริ่มต้นเท่ากันหมด คือ 17,000.-
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น