วิธีลดความอ้วนด้วยน้ำ...ไม่ต้องพึ่่งยา, ไม่ต้องควักกระเป๋าแม้แต่บาทเดียวด้วย     สำหรับสุภาพบุรุษผู้มีรูปลักษณ์ออกในแนวดำๆ ตันๆ ล่ำๆ และถึกๆ เป็นชายผู้รักในสายลมและแสงแดด แต่เกลียดการอาบน้ำ และซักผ้า มีความไฝ่ฝันอยากจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดเพศตรงข้าม (และเพศเดียวกัน) รวมไปถึงท่านสุภาพสตรีผู้มีบั้นท้ายกว้างขวางราวๆ 3ไร่กับอีก 2งาน วันๆเอาแต่เพ้อเจ้ออยากจะมีส่วนโค้งเว้าชวนมองเหมือนตัวอิจฉาในละครหลังข่าว, แต่ไม่อยากจะลงทุนอะไรแม้แต่บาทเดียวเนี่ยนะ หาคำตอบได้จากเนื้อหาข้างล่างนี้ วิธีการลดความอ้วยอย่างง่ายที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาก็คือ ให้คุณดื่มน้ำ 1.5 ลิตร วันละ 3 เวลา ตามนี้ ☻ เวลาประมาณ 05.00 am. (ตี5) หนึ่งรอบ ☻ เวลาประมาณ 02.00 pm. (บ่าย2) หนึ่งรอบ ☻ เวลาประมาณ 06.00 pm. (6โมงเย็น) หนึ่งรอบ ☻ พยายามกินอาหารมื้อเช้า และกินอาหารแต่ละมื้อให้เป็นเวลาครับ วิธีการก็มีอยู่แค่นี้แหละ .................... อ่านๆดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิศดาลเลยใช่ไหมครับ อย่างเรื่องการกะปริมาณ คุณก็ไปหาขวดน้ำ หรือ ขวดน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตรมาใส่น้ำก็ได้, ถ้าดื่มรอบเดียวไม่หมดก็ให้รอสักครู่ แล้วค่อยดื่มที่เหลือเป็นรอบที่ 2, 3 ก็ไม่ผิดกติกา แนะนำว่าดื่มช้าๆ และในระหว่างดื่มให้หายใจเข้าออกช้าๆด้วย วิธีนี้จะดื่มน้ำได้มากกว่าครับ     ได้ผลจริงหรือเปล่า? คนที่ได้ทดลองทำตามวิธีนี้ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "ได้ผลจริง" และหนึ่งในนั้น (คนที่บอกต่อกับผมนี่แหละ) บอกว่าทำมา 2เดือน น้ำหนักลดลง 5 kg. ผลการทดลองจริงของผม ทำเป็นเล่นไป... ผมเองก็ทดลองมาแล้วตั้ง 3 วันเลยนะ.??? (พูดจริง ถ้ารวมกับวันที่เขียนบทความอยู่นี่นับเป็น 4วัน ก็ได้) คือถ้าให้คนติดนิสัยหลับดึกตื่นสายอย่างผม แหกขี้หูขี้ตามาดื่มน้ำถึง 1.5 ลิตร ตอนตี 5 เนี่ย..บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกอย่างน้ำ1.5 ลิตร วันละ 3เวลา มันก็เท่ากับ 4.5 ลิตร และถ้าบวกกับการกินน้ำตามปกตินิสัย รวมๆแล้วปริมาณน้ำขนาดน้ัน มันทำให้เรารู้สึกอึดอัด ขมุกขมุ่นได้ทั้งวันเลยทีเดียว แต่น้ำก็คือน้ำครับ น้ำไม่ใช่สารพิษ สุดท้ายแล้วร่างกายของคนเรามันก็สามารถปรับตัวได้วันละนิด เพราะสังเกตว่า วันต่อๆมา ผมเองก็รู้สึกขมุกขมุ่นน้อยลง ดูๆไปผมว่าวิธีการนี้มันน้องๆดีท็อคเลยนะ จะดีกว่าก็ตรงที่ ไม่ขั้นตอนสวนทวารด้วยฉี่ของตัวเองนี่แหละ ถึงจะทดลองแค่ไม่กี่วัน แต่บางอย่างก็เห็นผลทันตา: ผลดีของการกินน้ำมากขนาดนั้นก็คือ มันทำให้กินอาหารน้อยลง อย่างตัวผม ไม่รู้สึกอยากจะกินของจุกจิกระหว่างวันอีกเลย ประโยชน์อื่นๆของการกินน้ำมากก็อย่างเช่น  ☺ มีส่วนทำให้ผิวพรรณสดใส: OKแค่การกินน้ำมากเพียงตัวแปลเดียวมันก็ไม่ถึงขนาดทำให้คุณ เปล่งประกายระยิบระยับ เสมือนได้ใส่ชุดลิเก อะไรแบบนั้นหรอก แต่น้ำก็มีส่วนทำให้ผิวผ่องใสขึ้นได้ละกันน่า ☺ ช่วยลดภาระ ระบบการย่อยของกระเพาะอาหารให้ทำงานเบาลง, ระบบขับถ่ายก็ดีขึ้น  ☺ น้ำมีส่วนช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะทางเหงื่อ หรือปัสสาวะ ☻>> ในสภาพอากาศปกติ น้ำบริสุทธิ์มีอุณหภูมิ 4° C. ปริมาณน้ำ 1 ลิตร จะมีน้ำหนัก = 1 kg. <<☻ ความเชื่อบ้าบอคอแตก ถูกหรือผิดก็ไม่รู้ ใครจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้ ☻ โดยส่วนตัวผมไม่ได้สนใจว่าน้ำหนักจะเพิ่ม หรือลดแค่ไหน เพราะความเป็นจริง เครื่องชั่งมันไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้วัดความสมบูรณ์แบบของสรีระ, ถ้าใครคิดอย่างนั้น มันก็เหมือนกับการที่คุณต้องการผักผลไม้สดๆมากิน แทนที่จะดูว่ามันมีใบเหี่ยวหรือเปล่า ผลสดปลั่งแค่ไหน ฯลฯ แต่คุณกลับเอาผักผลไม้ที่ว่าไปวางบนเครื่องชั่ง จากนั้นก็ซี้ซั้วไปเองว่ามันต้องมีน้ำหนักเท่านั้นเท่านี้นะ ถึงจะเรียกว่าเป็นผักผลไม้ที่ใหม่สดและสมบูรณ์ (ไม่เกี่ยวกันเล้ย) ☻ เครื่องมือที่จะบอกได้ว่าคุณเป็นความอ้วน, ผอม, สเลนเดอร์ขนาดไหนได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ตาคู่สวยของคุณกับกระจกไง, ก็ทีเวลาคุณมองคนอื่นยังวิจารณ์กันได้เลยว่า คนนั้นหุ่นเหมือนน้องหมุด, คนนี้หุ่นเหมือนจิ้งเหลน อุ๊ย! คนโน้นเหมือนปาบู่ชนเขื่อน ถ้าเป็นอย่างน้ันก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่คุณจะดูตัวเองผ่านกระจกแล้ว อุทานออกมาว่า โอ๊วว!! รูปร่างของดั๊ลลเนี่ยนะฮ๊ะ มันแสนจะซับซ้อนดูยากเกินไปที่จะบอกได้ว่า ตกลงเป็นคนอ้วนหรือว่าผอม? ☻ สำหรับคนที่มีเวลาส่วนตัวน้อย จะยังไงก็แล้วแต่ ผมก็อยากจะแนะนำด้วยความหวังดีว่า หาเวลาย้ายก้นอ้วนๆของคุณไปออกกำลังกายกันบ้างเถอะครับ และจะดีมากถ้าได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะผมคิดว่าไม่มีวิธีการไหนที่จะทำให้เรามาดมั่น ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติทั้งรูปร่างภายนอก รวมไปถึงสุขภาพภายใน ได้ยาวนานไปกว่าการออกกำลังกายอีกแล้ว สำหรับคนที่ยอมรับชัวร์ๆแล้วว่า มองจากเหลี่ยมไหน มุมไหนฉันก็ยังขี้เหล่อยู่วันยันค่ำ ผมมีข้อเสนออีกวิธีหนึ่งที่ทำจะทำให้คุณมีเสน่ห์ โดดเด้งขึ้นมาในสายตาคนรอบข้าง...นั่นก็คือการปรับปรุงตัวเอง ทางด้านความรู้ ความสามารถสูงขึ้นเท่าไหร่ คุณขโมยซีนพวก หล่อ, สวยใส ให้เสียเซลล์กันได้ง่ายๆเหมือนกัน *ปล. ข้อนี้ผมอาจคิดผิดก็ได้นะ เพราะหลายต่อหลายเรื่องที่สากลโลกเขาชื่นชมว่าดี แต่กับคนบางจำพวกที่อาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่เหมือนชาติใดในโลกอย่างไทยเนี่ย มักจะขัดลูกหูลูกตา ไม่ค่อยจะยอมรับกันซักเท่าไหร่ (ได้เห็นพวกที่รู้ทันเมื่อไหร่ มักมีอาการผิดสำแดง ออกงิ้วออกลิเกทุกทีเลย)